อาจารย์กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา (Mr.Kulachatr Chatrakul Na Ayudhya)
        
เป็นชาวกรุงเทพโดยกำเนิด  เริ่มต้นเรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์  แต่ต้องย้ายตามบิดามาที่เชียงใหม่  มาครั้งแรกโดยทางรถไฟ  ลอดถ้ำขุนตานมาครั้งแรก และก็ได้อยู่ที่เชียงใหม่มาร่วมๆ 22 ปี แล้ว  เริ่มต้นเรียนชั้นประถมปีที่ 5 ที่โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย แต่ด้วยเป็นโรงเรียนที่เป็นที่นิยมและน่าเชื่อถือของชาวเชียงใหม่  บิดาจึงอยากให้อยู่ที่นี่จึงตัดสินใจปลูกบ้านที่เชียงใหม่และอยู่มาเรื่อยจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  ตัดสินใจเลือกเรียนสถาปัตย์  ด้วยความที่ชอบขีดๆเขียนๆ วาดรูป  แต่ชะรอยชะตาท่าจะได้อยู่เชียงใหม่  จึงสอบไม่ติดสถาปนิกดังใจสักแห่ง  แต่สอบติด  คณะวิทย์ มช. อันดับสุดท้ายอันดับเดียวที่เลือกเท่านั้น  จนใจต้องเรียนจนจบเคมีอุตสาหกรรม ในสาขาที่เกี่ยวกับซิลิเกตเทคโนโลยี  ซึ่งเป็นศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์เซรามิกส์  และได้ทุนจาก สวทช. เรียนต่อเคมีอนินทรีย์มระดับปริญญาโท  แต่แล้วเหตุการณ์ก็ผลิกไปเมื่อคุณพ่อได้ชวนทำธุรกิจเกี่ยวกับสถานีบริการน้ำมัน  นับเป็นสิ่งที่ท้าทายนักวิทยาศาสตร์มากที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจเลยแต่ต้องมาทำธุรกิจ  
           ในระยะเริ่มต้น  คิดว่าคงทำได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ท่านก็มาสายพาณิชยศาสตร์ทั้งคู่  คงได้บทเรียนจากท่าน   แต่การเรียนป.โทวิทยาศาสตร์ในขณะที่ทำธุรกิจด้วยนั้นมาขัดแย้งกันเหลือเกิน  อีกทั้งภาระทางสองด้านก็หนักมากขึ้นทุกวัน  จึงตัดสินใจเลือกครอบครัวและธุรกิจ  ด้วยการลาออกจากการเรียน ป.โทและขอคืนทุนการศึกษาทั้งหมดแก่ สวทช. และมุ่งมั่นทำธุรกิจอย่างเต็มตัว    
           การทำธุรกิจในระยะนั้นไม่ง่ายและเป็นช่วงที่รัฐบาลจุดระเบิดเวลาไว้แต่เราไม่รู้  กอรปกับช่วงนั้นพยายามหาแหล่งความรู้ทางธุรกิจเพื่อเรียนบริหารธุรกิจ  ซึ่งโอกาสมักมีเสมอ  เมื่อตอนนั้นโครงการ MBA  (Master of Business Administration) กำลังเป็นที่นิยมมาก จึงตัดสินใจเลือกเข้าเรียนต่อที่ มช.  สอบสองครั้งไม่ติด เพราะไม่ได้จบทางนี้มา   แต่ทางพายัพเปิดรับกว้างกว่าเพราะสอบแค่สัมภาษณ์ก็ติดแล้วเพราะเรามีธุรกิจทำจริงๆ  และยังสอบยกเว้นภาษาอังกฤษได้ด้วยก็เลยตัดสินใจเรียนที่ มพย. อย่างไม่ลังเล  และก็ไม่ผิดหวังที่สามารถเรียนจบได้  แต่ใช้ระยะเวลายาวนานกว่าใครๆ ถึง 5 ปี
           สาเหตุที่เรียนไม่จบตามเวลาที่กำหนด เพราะขณะนั้นทำสถานีบริการน้ำมันถึงสองแห่งในเวลาเดียวกันประกอบกับเศรษฐกิจรุ่งเรืองสุดขีดจนฟองสบู่แตก  ฐานะทางธุรกิจเริ่มสั่นคลอน  เพราะเสียดอกเบี้ยแพงที่สุดในชีวิตถึง 24% และเป็น NPL ในที่สุด  สถานการณ์ที่คับขันในเวลานั้น  ถูกฟ้องร้องหลายคดี  ความรู้MBA ที่มีไม่สามารถช่วยเหลือให้ธุรกิจฟื้นคืนมาได้เลย  จึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับธุรกิจน้ำมันอีก  แล้วหันหลังให้กับธุรกิจนี้อย่างที่ชีวิตนี้จะไม่กลับไปจับมันอีก
          แต่เดชะบุญที่ทำไว้คือการที่เราได้แสวงหาความรู้ในระดับปริญญาโทไว้จนเรียนจบ  จึงไม่ตกงานขณะที่ธุรกิจเริ่มแย่  ได้มีโอกาสไปสอนพิเศษที่สถาบันราชภัฎเชียงใหม่ในคณะวิทยาการจัดการ  เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจขนาดย่อม  ศิลปการขาย  การบริหารการตลาด หลักการตลาด  วิจัยตลาด การบริหารการผลิตและอีกมากมาย  สั่งสมประสบการณ์การสอนไว้ และเพื่อนที่เป็นอาจารย์ฝ่ายกิจการนศ. พายัพ "อ.แอ"  แนะนำผมให้มาบรรยายเรื่องธุรกิจน้ำมัน ใน Class ป้าใหญ่ จนวันหนึ่ง "ป้าใหญ่" อ.กาญจนา ปองทอง(หรือ อ.สิริกาญจน์ ในปัจจุบัน)  ท่านขับรถกระป๋องแดง (พวกอ.การตลาดชอบเรียกกัน) มาเติมน้ำมันที่ปั๊ม  เดินมาบอกว่าที่พายัพรับอ.การตลาด ให้รีบไปสมัคร  และหลังจากนั้นผมก็รู่ว่า ท่านได้พยายาม Defend เพื่อให้ผมได้เข้ามาทำงานร่วมกัน  ผมยังจำเหตุการณ์วันนั้นไม่เคยลืม ขอขอบพระคุณในพระคุณของป้าใหญ่มากครับ
           ผมจึงได้มีโอกาสฟื้นตัวจากคนที่แทบไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต จนอายุ 27เพราะธุรกิจ    นอกจากความรู้ล้วนๆ ที่มันยังติดตัว  มายืนอยู่ในตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง  จนมีโอกาสได้เรียนปริญญาโทอีกใบ  มีเพื่อนร่วมงานที่ดี  มีครอบครัวที่กลับมาอบอุ่นใหม่อีกครั้ง  และที่สำคัญภูมิใจที่ได้มีโอกาสพร่ำสอนลูกศิษย์และให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกศิษย์และไม่อยากให้ใครต้องเป็นแบบตัวเอง ที่ทำธุรกิจโดยปราศจากความรู้ ความเข้าใจ และล้มเหลวโดยสิ้นเชิง   แต่ประสบการณ์เหล่านั้นมีค่ายิ่ง  มันได้ฝึกความอดทนอดกลั้นและต่อสู้  กับบทเรียนราคาแพง  จนได้ปรัชญาว่า

                       "ธุรกิจ ไม่ใช่ ของเล่น  ต้องอดทนและทำจริงจัง บนพื้นฐานของความรู้ในศาสตร์ของมันอย่างลึกซึ้งและเข้าใจ"

จึงมีเหตุผลส่วนตัวอย่างล้นพ้นว่าจะขอเป็นอาจารย์ที่ต้องผลิตคนรุ่นหลังให้ทำธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคตที่เจริญขึ้นเท่านั้น จะไม่สอนให้ลูกศิษย์ไปบอบช้ำเด็ดขาด และอยากให้ลูกศิษย์ทุกๆคน  จงแสวงหาความรู้ให้ตนเองให้มากที่สุด   ให้ความรู้ประดุจดั่งอาวุธของตน

Date of Birth ; 7 April  1971 ,  Age : 33 Years    Sex : Male
Marital Status : Married with 1 son
Address ; 501/72 Moo 3 (Pimuk) Sansainoi , San-Sai , Chiangmai 50210
Tel : 0-53350082 , Mobile : 0-1885-6864 , e-Mail : kulachatr@payap.ac.th
Related Website : http://mkpayap.payap.ac.th
Working Address : Marketing Dept. Business Administration Fac.  Payap University
Office Tel : 0-5324-1255 ext.409  Fax : 407   
Lecture : MK380 , MK361 , MK209 , MK480 ,

Coruse code

For Student Programm (41 - 45)

MK380

Marketing Information System         (3-0)  ระบบสารสนเทศทางการตลาด

MK361

Retailing Management                      (3-0)  การจัดการการค้าปลีก

MK209

Production                                           (3-0)  การผลิต

MK480

ฺีBusiness Simulation                          (3-0)  การฝึกปฏิบัติเชิงธุรกิจ

Course code

For Student Programm (46 - 50)

MK315

Marketing Information System                  (3-2)  ระบบสารสนเทศทางการตลาด

MK412

Retail and Wholesales Management       (3-0)  การจัดการการค้าปลีกและค้าส่ง

BA308

Production and Operation Management (3-0) การปฏิบัติการและการดำเนินการผลิต

MK424

Introduction to Electronics Commerce    (2-2) การพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น